หลายคนในที่นี้คงมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองแล้วไม่ว่าจะเพื่อธุรกิจหรือเป็นเว็บไซต์ส่วนตัวก็แล้วแต่ บางคนก็กำลังคิดอยากจะมีหรือไม่ก็คิดอยากทำเองบ้าง จริงๆ แล้วการทำเว็บไซต์ไม่ยากอย่างที่คิด เพราะมีโปรแกรมสร้างเว็บไซต์หรือ Web Builder แจกฟรีมากมายตามอินเตอร์เน็ต ขอแค่ให้พอรู้เรื่องคอมฯ บ้างเป็นใช้ได้แต่ถ้าจะให้สร้างเว็บระดับมือโปรจริงๆ ก็ควรต้องมีความรู้เรื่อง Code เช่น HTML, CSS, PHP หรืออื่นๆ แต่เราจะไม่พูดลึกไปถึงจุดนั้น วันนี้นานัวร์จะอธิบายเกี่ยวกับการจะมีเว็บไซต์ซักเว็บสำหรับผู้ที่สนใจทั่วไป แบบระดับเบื้องต้น ขอย้ำ แบบว่า basic จริงๆ คร๊า ส่วนคนที่รู้อยู่แล้วก็อาจจะอ่านทบทวนก็ได้ไม่ว่ากันจ้า จากประสบการณ์ในการพูดคุยกับลูกค้า เคยมีเหมือนกันที่เข้ามาถามว่าอยากให้เราทำเว็บให้ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง บางครั้งถ้าเราลงลึกไปในระดับเทคนิคหรือแม้แต่โครงสร้างเว็บไซต์ ลูกค้าบางคนอาจไม่เข้าใจ นานัวร์ก็เข้าใจนะคะ มันเหมือนกับว่าถ้าคนที่อยู่วงการเดียวกันพูดกันมันจะเข้าใจ อย่างเช่น พวกวิศวกรพวกหมอ พูดคุยกันเองก็เข้าใจ แต่นานัวร์ฟังเค้าคุยกันไม่ค่อยเข้าใจหรอก มันก็คงเหมือนกัน แต่มีสิ่งที่สำคัญๆ ที่ขาดไม่ได้ในการมีเว็บไซต์แล้วให้ออนไลน์โลดแล่นอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ตดังนี้ค่ะ - เว็บไซต์ (Website)
- เว็บโฮสติ้งหรือพื้นที่วางเว็บไซต์ (Web Hosting)
- โดเมนเนมหรือชื่อเว็บไซต์ (Domain Name) บางที่ก็เรียก ชื่อโดเมน หรือคำว่า โดเมน เฉยๆ
ถ้าคุณต้องการให้เว็บไซต์ออนไลน์อยู่ในอินเตอร์เน็ตแล้วล่ะก็ ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งนี้ไม่ได้ มันเหมือนกับคุณมีสินค้าแต่ไม่มีที่ขายแล้วใครจะมาซื้อ ใครจะหาสินค้าคุณเจอ ถ้าเปรียบสามสิ่งนี้เหมือนร้านขายของที่เห็นกันอยู่ทั่วไป ก็เปรียบได้กับ เว็บไซต์ = สินค้าหรือบริการ เว็บโฮสติ้ง = พื้นที่ร้านค้า คล้ายๆ กับคุณมีสินค้าถ้าคุณจะขาย ก็ต้องไปเช่าแผงหรือเช่าหน้าร้านตามตลาด โดเมนเนม = ชื่อร้านค้า หรือถ้าเปรียบกับหน่วยงานของรัฐก็จะเป็น เว็บไซต์ = ข้อมูลการทำธุรกรรมต่างๆ เช่น แจ้งเกิด แจ้งตาย ทำบัตรประชาชน เว็บโฮสติ้ง = ที่ตั้งสำนักงานเขต โดเมนเนม = ชื่อสำนักงานเขต เช่น สำนักงานเขตพญาไท จ.กรุงเทพมหานคร เป็นต้น เว็บไซต์ คืออะไร? พอได้ยินคำนี้ นานัวร์ว่าทุกคนต้องรู้จักหรือเคยได้ยิน แต่จริงๆ แล้ว เว็บไซต์มันคืออะไรกันนะ? เว็บไซต์นี้มันมีหลากหลายรูปแบบและหลายขนาด เช่นเว็บขนาดเล็ก มีเพียง 4-5 หน้า ไปจนถึงเว็บขนาดใหญ่ที่มีร้อยกว่าหน้า ในโลกนี้มีเว็บไซต์มากมายหลายล้านจนนับไม่ถูก และในจำนวนนี้ก็มีหลากหลายรูปแบบหลากหลายภาษาในการเขียน เช่น เว็บเขียนด้วย html, css, php, ajax, asp, JavaScript, Flash หรืออื่นๆ อีกมากมาย นานัวร์ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจแล้วกันนะคะ แต่สรุปง่ายๆ เว็บไซต์ก็คือ แหล่งรวบรวมข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาในรูปแบบของตัวหนังสือ รูปภาพ วีดีโอ หรืออื่นๆ ซึ่งสามารถหาได้เมื่อคุณออนไลน์หรือใช้อินเตอร์เน็ตอยู่นั่นเอง โดยผ่านทาง World Wide Web (WWW) นอกจากนี้เว็บไซต์ก็ยังแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท เช่น เว็บบล็อกอย่างโอเคเนชั่นนี้ หรือพวกเว็บบอร์ด เช่น พันทิพ หรือ Social media อย่าง Facebook และยังมีอีกเยอะแยะมากมายหลายประเภท ถ้าจะให้นานัวร์สาธยายอีกคงต้องพิมพ์กันจนนิ้วด้านแน่ๆ นอกจากนี้ ก็ยังแบ่งเว็บไซต์ได้เป็นประเภทๆ อื่นๆ อีกเช่น - เว็บไซต์ส่วนตัว (personal website) เอาไว้เขียนเรื่องราวส่วนตัวหรือโชว์ผลงาน - เว็บไซต์เพื่อการค้า (commercial website) เน้นประชาสัมพันธ์ธุรกิจเป็นหลัก - เว็บไซต์หน่วยงานของรัฐ (government website) - เว็บไซต์มูลนิธิ หรือองค์กรการกุศลต่างๆ (non-profit organization website) เว็บโฮสติ้ง คืออะไร? ถ้าคุณมีแต่เว็บไซต์อย่างเดียว ไม่สามารถออนไลน์ในอินเตอร์เน็ตได้ มันต้องมีเว็บโฮสติ้งด้วย ซึ่งเว็บโฮสติ้งจะทำหน้าที่เก็บเว็บไซต์ของคุณทุกหน้า ซึ่งผู้ใช้คอมพิวเตอร์ที่มีอินเตอร์เน็ตเท่านั้นที่สามารถเข้ามายังเว็บไซต์ของคุณได้ เมื่อผู้ใช้อินเตอร์เน็ตพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ของคุณในบราวเซอร์ (Browser) เช่น Internet Explorer มันก็จะถูกแปลงไปเป็นหมายเลขไอพี (IP Address) ของคุณแล้วเว็บไซต์ก็จะถูกโหลดมากจากเว็บเซิร์ฟเวอร์ ผู้ให้บริการออกแบบเว็บไซต์หลายเจ้าก็มักจะมีบริการเว็บโฮสติ้งรวมถึงจดโดเมนเนมด้วย เพื่อเป็นการจูงใจลูกค้า หรือแม้แต่ให้เช่าเว็บโฮสติ้งฟรี แต่พวกของฟรีพวกนี้ก็มักจะมีข้อจำกัดต่างๆ มากมาย เช่น จะมีแบนเนอร์โฆษณาติดอยู่ที่หน้าเว็บคุณโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือไม่สนับสนุนภาษาโปรแกรมบางอย่าง ของฟรีพวกนี้น่าจะเหมาะกับมือใหม่หัดสร้างเว็บไซต์ หรือเว็บส่วนตัวเล็กๆ ที่ไม่ได้คาดหวังเรื่องจำนวนผู้เข้าชม ส่วนประเภทของเว็บโฮสติ้งก็มีแบ่งปลีกย่อยเข้าไปอีก แต่นานัวร์จะไม่ลงลึกไปขั้นนั้น เดี๋ยวจะว่ากันยาว เดี๋ยวคนอ่านจะตาแฉะอีก โดเมนเนม คืออะไร? โดเมนเนม (Domain Name) นั้นก็คือชื่อเว็บไซต์นั่นเอง เรากำหนดชื่อเว็บขึ้นมาก็เพื่อใช้แทนหมายเลขไอพี (IP Address) เพื่อให้จดจำได้ง่ายกว่า เพราะหมายเลขไอพีมีแต่รหัสตัวเลขหลายหลัก ยกตัวอย่างง่ายๆ สมาชิกในครอบครัวของคุณทุกคนก็ต้องมีหมายเลขประจำตัวประชาชน แต่คุณคงจำเลขประจำตัวของทุกคนไม่ได้ (แม้แต่ของนานัวร์เองก็ยังจำไม่ค่อยได้) แต่คุณจำชื่อของทุกคนในบ้านได้ โดเมนเนมก็เหมือนกัน ในโลกของอินเตอร์เน็ตนั้นยังคงใช้หมายเลขไอพีในการอ้างอิงที่อยู่ของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต ดังนั้น เว็บโฮสติ้งแต่ละที่จึงต้องมี DNS (Domain Name System หรือ Domain Name Server) เอาไว้ทำหน้าที่แปลงหมายเลขไอพีมาเป็นชื่อโดเมน เมื่อคุณพิมพ์ชื่อโดเมนลงในบราวเซอร์เพื่อเรียกดูเว็บไซต์ บราวเซอร์นั้นก็จะแปลงชื่อโดเมนนั้นให้เป็นหมายเลขไอพี และเครือข่ายจะทำการค้นหาในระบบ DNS เพื่อระบุหมายเลขไอพีของชื่อนั้นๆ ได้ ดูภาพตัวอย่างข้างล่างอาจทำให้เข้าใจง่ายขึ้น ถ้าอยากรู้ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่คุณใช้อยู่มีหมายเลขไอพีอะไร ก็ลองเช็คได้ ที่นี่ ค่ะ
|