|
ขายของในเว็บหรือไอจีก็ดีอยู่แล้ว ทำไมต้องมีหน้าเว็บด้วย ? |
|
:: เมื่อ
26-04-2561 :: เข้าชมทั้งหมด
3934
ครั้ง :: |
|
ขายของในเว็บหรือไอจีก็ดีอยู่แล้ว ทำไมต้องมีหน้าเว็บด้วย ?
สำหรับคำถามที่ว่านี้ เชื่อว่ามีพ่อค้า/แม่ค้าหลายคนต้องเคยนึกถึงหรือบ่นอยู่ในใจ ว่าทำไมถึงต้องมีหน้าร้านด้วย ในเมื่อลูกค้าหรือแฟน ๆ ก็คอยติดตามความเคลื่อนไหวต่าง ๆ บนแฟนเพจใน Facebook หรือว่าที่ Instagram อยู่แล้ว แต่ถ้าเราได้ลองเข้าไปตรวจเช็คดูสินค้าหรือเรื่องราวอื่น ๆ บนโลกออนไลน์ ในช่องทางทั้งสองที่ว่านั้น ก็จะพอมองเห็นปัญหาบางอย่างอยู่บ้างเหมือนกัน
เริ่มจากไอจีก่อน ในอินสตาแกรมนั้น เราเข้าใจดีว่าเน้นรูปเป็นหลัก เลื่อนไปเลื่อนมาในการดูรูปต่าง ๆ แต่สิ่งที่ขาดไปคือรายละเอียดของตัวสินค้า ที่ไม่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน และที่สำคัญคือขาดความเป็นระเบียบ หากเทียบกับเว็บไซต์แล้วที่มีการแบ่ง Category แยกหมวดหมู่ แยกประเภทให้เห็นเด่นชัด รูปจะไม่ได้เอามารวมกันอยู่ในหน้าเดียวแล้วเราต้องมาเลื่อนหาไปทีละอย่าง รวมไปถึงการที่สินค้าตัวนึงมีรูปมากกว่า 1 อาจมีตั้งแต่ 3-6 รูปเพื่อให้เห็นหลายมุมมอง เอาแค่กางเกงยีนส์ก็ต้องเห็นด้านหน้า ด้านหลังแบบเต็มตัว มีภาพซูมระยะใกล้ให้เห็นพื้นผิวของเนื้อผ้า รอยเย็บในจุดต่าง ๆ รวมถึงด้านในของกางเกง และเมื่อนานวันเข้าที่มีสินค้าเข้ามาใหม่เรื่อย ๆ ภาพจะมีเยอะขนาดไหน ยังไงก็รกอยู่ดี ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นการเลื่อนหาสินค้าแต่ละตัวของลูกค้าก็จะใช้เวลานานจนเกินไป และยังมีผลต่อการตัดสินใจในการสั่งซื้อสินค้าอีกด้วย บางคนอาจจะปิดไปเลยแล้วมองหาร้านอื่น
ส่วนในเฟสบุ๊คก็มีปัญหาคล้ายกับไอจี อาจจะมีจุดที่เหนือกว่าอยู่บ้างคือสามารถจัดการแกลเลอรี่ และให้ผู้บริโภคสั่งซื้อสินค้าจากทางหน้าเว็บได้ อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าระบบของเฟสบุ๊คจะไม่ได้ช่วยให้การจัดการสั่งซื้อสินค้าของผู้บริโภค ดำเนินการได้อย่างเบ็ดเสร็จตามความต้องการของพ่อค้า/แม่ค้า
อีกสิ่งนึงที่หลาย ๆ ร้านมักจะเจอก็คือการสอบถามข้อมูลเข้ามาทางข้อความส่วนตัว ไม่ว่าจะ FB หรือ IG ที่บางร้านจะมีเข้ามาตลอดทั้งวันทั้งคืน บ่อยครั้งก็ขัดจังหวะในเวลาที่เรากำลังดูหนังหรือกำลังเล่นเกมส์ตกปลาอยู่ จนต้องจ้างแอดมินอย่างน้อยอีกสัก 1 คน เพื่อให้ช่วยดูแลเรื่องนี้ พ่อค้า/แม่ค้าจะได้มีเวลาไปแพ็คของมากขึ้น
คราวนี้มาดูความสำคัญของการมีเว็บไซต์ เริ่มจากอย่างแรกเลยคือ ความเป็นระเบียบในการแยกประเภทของสินค้าแต่ละอย่าง สามารถจัดวางให้เรียบร้อยได้ดีขึ้น ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมก็สามารถใส่เข้าไป โดยที่ไม่รก อีกทั้งลูกค้าไม่จำเป็นที่จะต้องติดต่อเรา หากเป็นลูกค้าที่เคยซื้อของกับเราแล้ว อย่างเช่นจะซื้อกางเกงยีนส์สักตัวนึง เลือกแบบ ดูรายละเอียดความหนาของผ้าว่ากี่ OZ. เป็นผ้าแบบไหน เอวเท่าไร จากนั้นหยิบใส่ตะกร้า กดสั่งซื้อ เลือกช่องทางในการจ่ายเงิน ให้ชื่อ ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ เพียงเท่านี้คือเสร็จเรียบร้อยโดยที่ผู้ขายไม่ต้องเหนื่อยมากนัก เมื่อเทียบกับการขายในเฟสบุ๊คหรือไอจีเพียงอย่างเดียว
ในกรณีที่สินค้าตัวใดตัวนึงของหมด การขึ้นว่า Out of Stock หรือว่าสินค้าตัวนี้ของหมดบน FB หรือ IG ก็ไม่เห็นได้ชัดเท่าในเว็บไซต์ ที่สื่อสารได้มีประสิทธิภาพกว่ามาก นอกจากนั้นแล้วเรายังสามารถทำ SEO เพื่อให้การ Search บน Google ค้นหาเว็บของเราเจอเป็นเว็บลำดับต้น ๆ ได้อีก และนี่ก็เป็นจุดเด่นคร่าว ๆ ของการมีเว็บไซต์ไว้เป็นหน้าร้านอีกหนึ่งช่องทาง ในการใช้ขายของออนไลน์
|
|
|